การเรียนรู้และรักนาฏศิลป์ไทย เป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนกล้าแสดงออก มีทักษะในการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อสื่อความหมายได้ชัดเจนสวยงาม รู้สึกพึงพอใจ สนุกสนานชื่นชมในนาฏศิลป์ตระหนักในคุณค่า และมีความมั่นใจตนเองยิ่งขึ้น ลงมือฝึกปฏิบัติทางด้านนาฏศิลป์ด้วยการเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งเป็นท่าทางเลียนแบบธรรมชาติของมนุษย์โดยตรงด้วยจินตนาการโดยใช้นาฏยศัพท์และภาษาท่าทางนาฏศิลป์ มาประดิษฐ์ให้งดงามและร้อยเรียงท่ารำให้ถูกต้องตามหลักวิชานาฏศิลป์ไทย ซึ่งผู้เรียนต้องใช้การสังเกตและมีสมาธิในการเรียนจดจำท่ารำและเลียนแบบให้เหมือนมากที่สุด ทักษะเหล่านี้ถ้าได้รับการปลูกฝัง ฝึกฝนจนมีความสามารถ ผู้เรียนก็จะสามารถนำไปใช้ใน
ชีวิตประจำวันได้ 

          จากการจัดการเรียนการสอนวิชานาฏศิลป์เรื่อง นาฏยศัพท์และภาษาท่า ที่ได้ทำการสอนโดยการใช้การเขียน
บนกระดาน การอ่านจากหนังสือ และ ทำใบงานนั้น พบว่า ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ นักเรียนเข้าใจจดจำ และปฏิบัติเกี่ยวกับนาฏยศัพท์และภาษาท่าได้ ส่งผลให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชานาฏศิลป์ และการสร้างสรรค์ผลงาน
การแสดงนาฏศิลป์อยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งเกิดความเบื่อหน่ายในการเรียน

          จากปัญหาและกระบวนการสอนที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ครูผู้สอนเห็นว่าควรแก้ไขและพัฒนาทักษะการปฏิบัตินาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ เพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจ จดจำ และเกิดเป็นทักษะการปฏิบัตินาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ และสามารถนำมาสร้างสรรค์ผลงานการแสดงนาฏศิลป์ได้ 

     2.1 ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานและเอกสารเกี่ยวกับทฤษฎีนาฏยศัพท์และภาษาท่า

     2.2 ออกแบบและจัดทำสื่อการสอน “นาฏยศัพท์และภาษาท่าน่ารู้”

     2.3 นำสื่อการสอนที่จัดทำไปเสนอหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาและนำมาปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำ

     2.4 ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน

     2.5 ครูผู้สอนจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแผนการสอนพร้อมกับนำสื่อการสอนไปใช้

     2.6 ผู้เรียนศึกษาสื่อการสอน “นาฏยศัพท์และภาษาท่าน่ารู้”

     2.7 ให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัดเรื่องนาฏยศัพท์และภาษาท่า

     2.8 ให้ผู้เรียนสร้างสรรค์ผลงานการแสดงและปฏิบัติท่ารำด้วยตัวเอง

     2.9 ผู้สอนประเมินผลการสร้างสรรค์ผลงานการแสดงและปฏิบัติท่ารำ

     2.10 ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน

3.1 เชิงปริมาณ

  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ร้อยละ 70 ขึ้นไป มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในระดับดี
ในการสร้างสรรค์ผลงานการแสดงนาฏศิลป์ 

3.2 เชิงคุณภาพ

  1) ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาสังคมศึกษา 4 เป็นตามค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด

       2) ผู้เรียนมีการเชื่อมโยงความรู้และประสบการณ์ ตามกระบวนการ (Active Learning-Based Teaching Model) จากการพัฒนาตนเองผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง